อาลัย “สาธิต ทองจันทร์” หมอลำผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ฝากเสียงลำให้ชาวอีสานทั้งโลก

IsanHub-เสียงแคน เสียงพิณ และท่วงทำนองกลอนลำที่ก้องกังวานในใจชาวอีสาน ต้องเงียบงันลงอีกครั้ง เมื่อวงการหมอลำสูญเสียศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ “สาธิต ทองจันทร์” หรือที่แฟนเพลงรู้จักกันดีในชื่อ “พี่นิดคนเดิม” ผู้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความรัก ความคิดถึง และความจริงใจในทุกบทเพลง

จากลูกชาวนา สู่หมอลำแว่นสีชามาดเท่

สาธิต ทองจันทร์ เกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2500 ที่อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เติบโตในครอบครัวชาวนา เสียงแคนจากบิดากลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กชายสานิตหลงใหลในศิลปะการลำ แม้เรียนจบเพียงชั้นประถม 4 แต่เขามีความฝันยิ่งใหญ่ที่จะขึ้นเวทีหมอลำให้ได้

เส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเริ่มต้นด้วยการเป็นเพียงลูกทีมแบกเครื่องดนตรี ก่อนจะค่อย ๆ ไต่เต้าเข้าสู่วงการหมอลำเต็มตัว จนในที่สุดได้ฝากผลงานกับครูเพลงอย่าง คำเกิ่ง ทองจันทร์ สร้างสรรค์บทเพลงอมตะมากมาย

เสียงลำอมตะ เพลงที่คนอีสานร้องตามได้ทั้งภาค

สาธิต ทองจันทร์ ฝากผลงานบันทึกเสียงกว่า 30 ชุด หลายเพลงยังคงดังข้ามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็น ปากโกรธใจคิดถึง, มือสังหาร, ความรักเหมือนควันบุหรี่, หยุดน้ำตาเถิดน้อง, รักแท้คือแม่ผม หรือ ฝากใจไว้กับดิน ทุกบทเพลงสะท้อนวิถีชีวิต ความรัก ความเจ็บปวด และความหวังของคนอีสานได้อย่างลึกซึ้ง

แฟนเพลงขนานนามเขาว่า “หมอลำสวมแว่นชา” เพราะบุคลิกเอกลักษณ์และน้ำเสียงจริงใจที่ไม่เหมือนใคร

ชีวิตเรียบง่าย รักครอบครัว

นอกจากเสียงลำบนเวทีแล้ว “พี่นิดคนเดิม” ยังยึดถือความพอเพียง ใช้ชีวิตเรียบง่าย เปิดกิจการเล็ก ๆ ทั้งน้ำดื่มและร้านค้าชุมชนเพื่อดูแลครอบครัว พร้อมสนับสนุนลูก ๆ ให้สืบสานทางดนตรีต่อไป

อาลัย “พี่นิดคนเดิม”

วันที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 08.30 น. สาธิต ทองจันทร์ ได้จากไปอย่างสงบด้วยวัย 68 ปี จากอาการสโตรก ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว วงการหมอลำ และแฟนเพลงทั่วโลก

เพจทางการของเขาได้โพสต์ข้อความอำลาแฟนเพลงอย่างจับใจว่า

 “กราบลาแฟนๆ ถ้าชาติหน้ามีจริงขอเกิดเป็น ‘พี่นิดคนเดิม’… ขอบคุณเจ้าภาพทุกคิวงานจนถึงปี 69”

 

มรดกเสียงลำที่ไม่มีวันเลือนหาย

การจากไปของสาธิต ทองจันทร์ ไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุด หากแต่เป็นการฝากมรดกทางศิลปะหมอลำไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ร้องตาม และระลึกถึงตลอดไป

ชาวอีสานและแฟนเพลงทั่วประเทศยังคงจดจำ “พี่นิดคนเดิม” ในฐานะหมอลำผู้ยิ่งใหญ่ ผู้เปลี่ยนความเจ็บปวดให้เป็นเสียงลำ ผู้เปลี่ยนความคิดถึงให้เป็นบทเพลง และผู้เปลี่ยนเวทีเล็ก ๆ ในบ้านนาให้ก้องกังวานไปไกลถึงใจคนทั่วโลก