
คนบ้านเฮา ดร.อภิวัฒน์ จ่าตา “ทิดเป้”
จากบ้านนอก สู่นักข่าว นักวิชาการ ลูกอีสานรวมพลัง
1. จากภูเวียง…ถึงมหานครที่ท้าทายฝัน
บ้านน้อยกลางทุ่งภูเวียง จังหวัดขอนแก่น คือจุดเริ่มต้นของเด็กหนุ่มที่ชื่อ “เป้” เติบโตท่ามกลางวิถีเรียบง่ายของชาวนา แต่หัวใจเต็มไปด้วยความใฝ่ฝันและความอยากรู้อยากเห็น เขาเลือกเดินทางออกจากบ้านเกิด มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เมืองที่ใครหลายคนว่าหนักหน่วงและโหดร้ายต่อเด็กบ้านนอก
ทิดเป้เล่าว่า ช่วงแรก ๆ ต้องทำงานสารพัดเพื่อประคองชีวิต แต่ไม่เคยท้อ เพราะทุกก้าวคือบทเรียน “คนอีสานบ่เคยถอยง่าย ๆ” เขาบอกเสมอ และนี่คือพลังที่ทำให้เขาผ่านความลำบากมาได้ จนวันนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกอีสานรุ่นหลังที่ใฝ่ฝันจะก้าวออกไปสู่โลกกว้าง
2. ผ้าขาวม้า — ไม่ใช่แค่ผ้าแต่คือรากเหง้า
สัญลักษณ์ประจำตัวของทิดเป้ที่หลายคนจดจำได้ คือ “ผ้าขาวม้า” ที่คล้องคอเสมอในเวลาปรากฏตัวบนหน้าจอทีวีหรือบนเวทีสาธารณะ มันไม่ใช่เพียงผ้าผืนหนึ่ง แต่คือรากเหง้าที่เตือนใจให้เขาไม่ลืมถิ่นฐาน ไม่ว่าจะยืนอยู่ที่ใดก็ประกาศตัวตนว่า “ข่อยคือลูกอีสาน”
คนอีสานจำนวนมากเมื่อเห็นเขาสวมผ้าขาวม้า ต่างบอกว่าเหมือนเห็นตัวเองถูกยกขึ้นไปบนหน้าจอระดับประเทศ เป็นความภูมิใจร่วมกันของ “คนบ้านเฮา” ที่สะท้อนว่าแม้จะมาจากชนบท แต่ก็สามารถยืนอย่างสง่างามได้ในทุกเวที
3. เรียนไม่หยุด จนคว้าเอกสองใบ
จากเด็กช่างที่เคยถูกมองว่าไม่มีทางไปไกล ทิดเป้พิสูจน์ให้เห็นว่าการศึกษาเปลี่ยนชีวิตได้จริง เขาเรียนจบปริญญาตรี นิเทศศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยเกริก ต่อด้วยปริญญาโท สื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก และไม่หยุดแค่นั้น เขายังมุ่งมั่นต่อจนสำเร็จปริญญาเอกถึงสองใบ ทั้งด้านสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก และรัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
คนที่เคยร่วมเรียนหรือร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาคือคนที่ “เอาจริง เอาจัง” และมีวินัยสูงมาก เสียงสะท้อนเหล่านี้ยืนยันว่าเบื้องหลังความสำเร็จไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่มาจากหยาดเหงื่อและความตั้งใจจริง
4. จากหน้าจอสู่การนำความรู้สู่สังคม
ชื่อ “ทิดเป้” เป็นที่จดจำจากหน้าจอโทรทัศน์ รายงานข่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจและเป็นกันเอง แต่เขาไม่ได้หยุดอยู่เพียงบทบาทผู้ประกาศข่าว หากยังทำงานเป็นอาจารย์พิเศษ ถ่ายทอดความรู้ให้แก่นิสิตนักศึกษา และก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกสมาคมสื่อมวลเกษตรแห่งประเทศไทย เพื่อผลักดันสื่อที่เข้าใจชีวิตคนชนบท
ชาวบ้านหลายคนบอกตรงกันว่า “ทิดเป้พูดภาษาเดียวกับเฮา ฟังง่ายและบ่สูงเกินไป” นั่นทำให้เขาเป็นนักสื่อสารที่เข้าถึงใจคน และแตกต่างจากสื่อกระแสหลักที่มักห่างไกลจากความเป็นจริงของชุมชน
5. และวันนี้เขาคือเจ้าของพื้นที่สื่อของลูกอีสาน — Esan Unity & IsanHub
ในยุคดิจิทัล ทิดเป้ไม่ได้หยุดเพียงการทำงานหนังสือหรือทีวี เขายังสร้างสื่อออนไลน์ของตัวเองขึ้นมา ได้แก่ Esan Unity และ IsanHub ซึ่งเป็นเวทีเล่าเรื่องราวของลูกอีสานในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต หรือความสำเร็จของคนอีสานในต่างแดน
เสียงชื่นชมจากชาวอีสานจำนวนมากสะท้อนตรงกันว่า เว็บทั้งสองนี้คือ “บ้านหลังใหม่ของลูกอีสานบนโลกออนไลน์” ที่ทำให้คนทั่วโลกรู้จักความงดงามของถิ่นอีสาน และเป็นศูนย์รวมความภูมิใจร่วมกันของคนบ้านเฮา
6. บทเรียนชีวิตที่ยังดังสะท้าน
เส้นทางชีวิตของทิดเป้คือเครื่องยืนยันว่า “ลูกอีสานก้าวไกลได้ หากไม่หยุดสู้” เขาเป็นทั้งนักต่อสู้ นักวิชาการ นักสื่อสาร และผู้สร้างพื้นที่ให้คนอีสานได้เล่าเรื่องของตัวเอง
ผู้คนที่ได้รู้จักหรือได้ติดตามต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาคือ “แบบอย่างของการไม่ยอมแพ้” และเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกอีสานทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่กล้าที่จะก้าวออกจากบ้านเฮา ไปพิสูจน์ความสามารถบนเวทีโลก
ทิดเป้ จึงไม่ใช่เพียงบุคคลหนึ่ง แต่คือสัญลักษณ์ของพลังลูกอีสาน ที่ยืนยันว่าความพยายาม ความซื่อสัตย์ และความภูมิใจในรากเหง้า จะนำพาไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่