
เล่าเรื่องเมืองอีสาน
โดย เล็ก อุดรฯ
ตอน นครพนม… เมืองแห่งโขงมหานที
ถึงจะเป็นคนอุดรฯ แต่ถ้าถามว่าเมืองไหนที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจและหลงใหลได้อย่างไม่น่าเชื่อในภาคอีสสาน คำตอบในใจผมก็คงหนีไม่พ้น นครพนม เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงที่ดูเงียบสงบ แต่กลับมีเสน่ห์ที่ชวนให้ค้นหาอยู่เสมอ
ทุกครั้งที่ได้มาเยือน ผมรู้สึกเหมือนได้เดินทางข้ามเวลา ได้สัมผัสถึงลมหายใจแห่งศรัทธาและเรื่องราวที่ถูกซ่อนไว้ใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่
เมื่อผมมาถึงที่นี่ สิ่งแรกที่ต้องไปกราบไหว้เสมอคือ องค์พระธาตุพนม ครับ
1.ที่นี่ไม่ใช่แค่เจดีย์ธรรมดา แต่เป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจ เป็นที่ที่ผมได้เห็นความศรัทธาของผู้คนอย่างแท้จริง ทั้งคนไทยและคนลาวต่างก็มาเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุด้วยความเคารพ
ผมได้แต่ยืนมองยอดพระธาตุที่ทอดแสงสีทองอร่ามภายใต้ท้องฟ้าสีครามแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ
นอกจากองค์พระธาตุพนมแล้ว ยังมีพระธาตุอีกหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น พระธาตุมหาชัย ที่อำเภอปลาปาก หรือ พระธาตุเรณูนคร ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามไม่แพ้กัน ทุกแห่งล้วนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของความศรัทธาที่หยั่งรากลึกในดินแดนแห่งนี้
ในมุมที่เงียบสงบอีกด้านหนึ่ง เมืองแห่งนี้ยังเป็นพยานในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองที่สำคัญ ผมเคยไปเดินชม บ้านลุงโฮ หรือหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม
ที่นี่ทำให้ผมได้รู้ว่าครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนามเคยมาพำนักอยู่ที่นี่ บ้านไม้หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบได้บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้และความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างเรากับเพื่อนบ้านได้อย่างชัดเจนครับ
- ผมชอบเดินเล่นริมฝั่งแม่น้ำโขงยามเย็นครับ ยามที่แสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ภาพของแม่น้ำที่ทอประกายระยิบระยับเหมือนมีเพชรนับล้านเม็ดโปรยลงมาบนผิวน้ำ พร้อมกับสายลมที่พัดเอื่อยๆ ทำให้หัวใจผมสงบลงอย่างประหลาดตา
ฝั่งตรงข้ามคือเมืองท่าแขกของประเทศลาว ที่ดูคล้ายกับภาพสะท้อนในกระจก ผมได้นั่งมองวิถีชีวิตของผู้คนริมน้ำ ได้เห็นเรือหาปลาลำเล็กๆ แล่นผ่านไปอย่างเชื่องช้า และได้เห็นผู้คนยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร ความเรียบง่ายและความสุขที่สัมผัสได้จากที่นี่ ทำให้ผมลืมความวุ่นวายจากโลกภายนอกไปได้อย่างหมดสิ้น
สิ่งที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือ น้ำใจของผู้คน ที่นี่มีผู้คนหลายกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย, ชาวไทยญ้อ, ชาวภูไท, หรือแม้กระทั่งชาวไทยเชื้อสายเวียดนามและจีน ทุกคนต่างก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ผมเคยหลงทางในหมู่บ้านแห่งหนึ่งและมีคุณยายชาวภูไทท่านหนึ่งพาเดินไปส่งถึงที่ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น นั่นเป็นภาพความทรงจำที่ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ แต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ต่างก็มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ การแสดงฟ้อนภูไท ที่อ่อนช้อยงดงาม หรือ ผ้าทอพื้นเมือง ที่ประณีตบรรจง ล้วนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าและยังคงถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ยามที่เหนื่อยล้าจากชีวิตในเมืองใหญ่ ผมมักจะหาโอกาสหนีมาพักใจที่นี่เสมอ ผมชอบไปเดินเล่นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ได้เห็นป่าไม้ที่เขียวชอุ่ม น้ำตกที่ไหลริน และได้ปีนขึ้นไปบนจุดชมวิวเพื่อมองดูทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงที่ทอดยาวจรดขอบฟ้า เป็นความสุขที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติที่สุดแล้วครับ
อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ผมเพิ่งค้นพบคือ ถ้ำนาคา ที่มีหินและผนังถ้ำรูปร่างคล้ายเกล็ดงูยักษ์ตามความเชื่อในตำนาน มันเป็นสถานที่ที่ทำให้ผมรู้สึกทึ่งในความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติจริงๆ ครับ และมักจะนึกถึงเร่องราวของพญานาคเสมอ
แต่ที่ผมหลงรักที่สุดของนครพนมคือ ประเพณีไหลเรือไฟ ครับ เรือไฟที่เพื่อสรักของผมเขาเป็นปราชญ์ชาวบ้านที่ผ็คนทั่วประเทศหรือ ต่างประเทศรู้จักเขาดี อ.พนม พุทธาผา
ผมเคยมาดูแทบทุกปีถึงกับพูดไม่ออกเลยจริงๆ ในคืนวันออกพรรษา แม่น้ำโขงจะเต็มไปด้วยแสงไฟจากเรือที่ประดับประดาอย่างสวยงาม มันเหมือนกับมีดวงดาวนับล้านดวงมาลอยอยู่บนผิวน้ำ พร้อมกับเสียงดนตรีพื้นบ้านที่ขับกล่อม มันเป็นภาพที่ตรึงใจจนผมไม่เคยลืมเลยครับ เป็นช่วงเวลาที่นครพนมทั้งเมืองดูมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความสุข
นครพนมสำหรับผมจึงไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นเมืองที่มีชีวิตจิตใจ เป็นที่ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ถึงความงดงามของศรัทธา ประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมที่อบอุ่น ถ้ามีโอกาส ลองมาสัมผัสนครพนมด้วยตัวเองดูสักครั้งนะครับ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงหลงรักเมืองนี้มากขนาดนี้
ด้วยจิตคารวะ เมืองแห่ง ขุนเขาอันศักดิ์สิทธิ์…นครพนม